วันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

tracers



วันนี้ไปดู tracers มา

เราว่าสนุกนะ ไม่สิ จริงๆแล้วที่ชอบอาจเป็นเพราะตัวหนังมันถูกจริตกับเราต่างหาก

จริงอยู่ที่ส่วนของเนื้อเรื่องอาจจะงั้นๆ ตามประสาพล้อตหนังแอคชั่นทั่วไป เอาตัวเองไปอยู่ในกลุ่มพัวพันกับเหตุการณ์ยุ่งเหยิง ดวงดีสัสๆจนรอดชีวิตได้และจบแบบสวยงามตามแบบหนังบู้

แต่สิ่งที่เราตั้งใจมาดูคือการที่เรื่องนี้เชิดชูเกี่ยวกับ Street Extream ประเภท Free running หรือ Parkour ซึ่งหนังประเภทที่เอาการวิ่งบ้าใต่กำแพงปีนตึกมาเป็นแกนหลักมีไม่ให้บ่อยนัก จากเรื่องเก่าๆที่เคยดูก็มี B13 มาจนถึงตอนนี้

ในฐานะที่เคยได้ลองสัมผัสโลกของกีฬาชนิดนี้มาก่อน บอกเลยว่ามันไม่ง่ายกว่าจะได้มาแต่ละท่า และยากไปการนั้นคือการทำคอมโบต่อเนื่องแบบในหนัง (ซึ่งรู้ว่าเอาจริงแต่ละฉากก็คงไม่ได้วิ่งนานรวดเดียวขนาดนั้น) จากเบสิก ไปจนถึงขั้นประยุกต์ จนชำนานและกลั่นออกมาเป็นท่าทางเฉพาะของตัวเอง

หากจะบอกว่าหนังได้แรงบันดาลใจมาจากเกม Mirror edge ก็คงไม่ผิด ทั้งในเรื่องการปีนตึกเข้าซอกกออกซอยเพื่อส่งพัสดุหรือการวิ่งแข่งขันของบรรดานักวิ่ง เราไม่รู้ว่าในเมืองนอกมีนักวิ่งปีนตึกเพื่อส่งพัสดุแบบนี้รึเปล่า แต่ถ้ามีคงเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่เร้าใจไม่น้อย

หากความสนุกของบีบอยคือการใช้พละกำลังและประสบการณ์จากการฝึกซ้ำจนกล้าเนื้อเริ่มชินและชำนาญท่าทางตามที่ได้ฝึกมา ความสนุกของปาร์กัวเห็นจะเป็นการพาตัวเองออกไปในสถานที่ใหม่ๆ ไปใช้ท่า(หรือตามภาษาเรียก Trick)กับวัตถุที่แปลกตาออกไปโดยมีการตัดสินใจที่รวดเร็วเป็นเครื่องมือกันตาย

และไม่ว่าจะเป็นกีฬา Extream ประเภทอะไรก็ตาม ความจริงอย่างหนึ่งที่ผู้เล่นกีฬาประเภทนี้ต้องเผชิญคือการเจ็บตัว

แน่ละว่าช่วงหนึ่งในชีวิตก่อนไขมันจะพิซิตซิคแพคไปได้หมด(เคยมีจริงๆนะ) ความสนุกในแต่ละวันของเราเองก็เป็นการออกจากบ้านไปเล่นอะไรพวกนี้ให้ปวดเมื่อยตัวกลับมา หรือถ้าวันใดได้แผลเจ็บๆคันๆวันนั้นจะรู้สึกดี แต่ทุกเวลาที่ได้ท่าใหม่หรือตั้งใจฝึกทริกอื่นๆมันจะเป็นช่วงเวลาที่โครตสนุก

เพราะความสนุกของมันคือการไม่มีกฏตายตัว

เมื่อเล่น Extream ได้ซักชนิด มันก็อยากจะหาแบบอื่นเล่นเรื่อยๆ เหมือนอย่างในหนังที่พระเอกเป็นเซียนจักรยานผาดโผนมาก่อนที่จะหัดปาร์กัว การต่อยอดของการเล่นพวกนี้เองทำให้เกิดความหลากหลาย เหมือนเด็กเสก็ตหลายคนก็ปั่นฟิกได้ และบีบอยหลายคนก็ตีลังกาได้ไม่น้อยไปกว่าเซียนฟรีรันนิ่ง

ชอบประโยคหนึ่งในหนัง ที่คนในทีมของพระเอกพูดเปรยๆให้ฟังประมาณว่า

"ไม่ว่าจะเรียกมันว่า Parkour หรือ Free running หรือจะอะไรก็ตามแต่ จุดมุ่งหมายเพียงอย่างเดียวคือการก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง ไม่งั้นเราก็จะจมอยู่แค่นั้นนั่นแหละ"

ใช่ เราต้องข้ามขีดจำกัด ไม่งั้นเราจะจมแค่นั้น นี่คือสิ่งที่ทำให้นักกีฬาฟรีรันนิ่งทั้งหลายยังอยากใช้ชีวิตผาดโผนแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ แม้ลึกๆจะรู้ว่าวันหนึ่งเมื่อสภาพร่างกายไม่ถึงก็ต้องหยุด แต่ก่อนหน้านั้นขอใช้ชีวิตให้สุดก่อนดีกว่า

สารภาพ ตั้งแต่น้ำท่วมใหญ่ในตัวกรุงเทพผ่านพ้นไป ชีวิตสุดสบายหลายเดือนทำให้ผมเกิดความเคยชินที่จะออกไปซักซ้อมกีฬาประเภทนั้น จนมันแทบจะหายไปหมดแล้วในตอนนี้ แม้ลึกๆใจตัวเองรู้ดีว่าอยากจะกลับไปโลดโผนแบบนั้นอีกจะตาย

ไอ้การก้าวข้ามขีดจำกัดนี่เองที่ดูเหมือนจะยังคงครุกรุ่นในตัวอยู่ ในช่วงนี้ บางวัน นึกคึกก็เปิดเพลงซ้อมเต้นในบ้านบ้าง หรือหากว่างๆก็ยังมักแวะเวียนเข้ายูทูปเพื่อดูคลิปพวกนี้อยู่ ดูแม้จะรู้ว่าทำแบบนั้นไม่ได้แน่ แต่บางครั้งแต่ได้ดูก็สุขใจ

และดูเหมือนว่าไม่ใช่เพียงนักกีฬาชนิดนี้เท่านั้นที่ต้องการก้าวพ้นขีดจำกัด เราว่าลึกๆแล้วทุกคนเองก็ต้องการก้าวผ่านจุดนี้ของตัวเองไปทั้งนั้น ส่วนนั่นจะไปได้ไกลแค่ใหน คงอยู่ที่ใจและระยะเวลาในการฝึกฝน 

วันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558

วันปีใหม่ ซื้อมือถือใหม่ให้พ่อ

เป็นคนที่มักตื่นเต้นกับอุปกรณ์เทคโนโลยีใหม่ๆอยู่เสมอ ขนาดวันนี้เพิ่งจะมือถือใหม่ให้พ่อไป ก็ยังไม่วายลองขอหยิบมาลงโปรแกรมให้ ส่องลองระบบนู้นนี้นั้น หลายๆอย่างมันทำให้เราว้าวๆได้เสมอ จะว่าไปตั้งแต่ใช้ไอโฟนมาครึ่งปีแล้ว การกลับไปกดใช้เอนดรอยอีกมันก็ไม่ใช่วิถีที่ถนัดนัก แต่พอใช้ไปซักพักเริ่มชิน

ที่วันนี้ซื้อมือถือใหม่ให้พ่อเพราะเห็นว่าแกบ่นมานานแล้วว่าเครื่องเก่า (note8) มันใหญ่เกินกว่าจะโทรออกรับสาย และแบตใกล้เสื่อม ไอ้ครั้นจะไปเปลี่ยนแบตก็ไม่คุ้มกัน คุยกับที่บ้าน เลยตัดสินใจซื้อใหม่ไปเลยแล้วกัน

ส่วนมือถือเครื่องเก่าของพ่อนั้นก็เป็นมรดกตกมาถึงลูกอยู่ดี แฮ่~


วันเสาร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2557

ซ่อนแอบ




ถ้าการแอบรักคล้ายกับการเล่นซ่อนหา กติกาน่าจะเป็นเรื่องส่วนบุคคล

เชื่อว่าในวัยเด็กของทุกคนถ้าไม่มืดมนจนเกินไป 

ซ่อนหา น่าจะเป็นอีกเกมหนึ่งที่เคยผ่านชีวิตเรามา
อย่างน้อยก็น่าจะซักหนึ่งครั้ง


ความสนุกของการแอบคือการซ่อนตัวเองไว้ให้รอดจากสายตาของคนหา 

สารพัดเทคนิควิธีการเท่าที่ในวัยนั้นพอจะคิดได้
ถูกงัดมาใช้อย่างหมดเปลือก การเลือกสถานที่เป็นสิ่งสำคัญ 
น่าแปลกที่การเล่นซ่อนแอบ สถานที่อันตรายที่สุด
อาจเป็นสถานที่ๆปลอดภัยอย่างไม่น่าเชื่อ 
สถานที่ยอดนิยมกลายเป็นสถานที่แรกๆที่มักจะถูกพบ 
ในขณะเดียวกันคนที่แอบซ่อนก็ยังมองหาผู้ที่เป็นคนหาด้วยเช่นกัน 
การเป็นผู้แอบและผู้ระวังสร้างความน่าตื่นเต้นเป็นสองเท่า


ผมจำไม่ได้แล้วว่าครั้งล่าสุดที่เล่นซ่อนแอบเป็นช่วงเวลาไหน 

หรือสถานที่ใดเป็นจุดฮิตในการซุกซ่อน 
จำได้เพียงผมเป็นคนที่เล่นซ่อนแอบไม่เก่งเอาเสียเลย หลายๆครั้ง 
ผมมักเป็นคนแรกๆที่โดนจับได้ นั้นหมายความว่าผมต้องเป็นผู้หาในตาต่อไป 
และพบว่าในหน้าที่นั้นผมเองก็ทำได้แย่พอๆกัน 
ดังนั้นผมจึงทึกทักไปเองตลอดว่าการเล่นซ่อนหา
เป็นกิจกรรมที่ไม่น่าสนุกเอาเสียเลย


พอลองมาคิดดู 

ถึงทุกวันนี้จะไม่มีคนชวนเล่นซ่อนแอบแบบเป็นรูปธรรม 
แต่กิจกรรมนี้ก็ยังผ่านเข้ามาในช่วงชีวิตอยู่แทบตลอดเวลา 
คิดว่าหลายๆคนก็คงเคยเจอประสบการเล่นซ่อนหาในชีวิตจริงแบบเดียวกัน 
เป็นทั้งคนซ่อน และบางตอนก็เป็นคนหา


ข้อดีอย่างหนึ่งของโลกโซเชียล

คือการที่แต่ละคนมีที่ทางในการระบายความในใจ
ออกไปสู่สาธารณะมากขึ้น 
เรื่องต่างๆที่ แอบไว้ในใจ ก็ถูกเผยแพร่ออกไปสู่สาธารณะมากตาม 
นั้นทำให้ผมได้รู้ว่าในคนบนโลกจำนวนมหาศาล 
ยังมีนักเล่นซ่อนแอบซุกซ่อนอยู่ไม่น้อย 
บางคนชอบและยังมีความสุขในการเป็นผู้แอบ 
แต่บางคนบางบริบทยังสวมบทบาทเป็นผู้หา 
จะหาตัวเองให้เจอ จะออกเดินทางตามหาความฝัน ฉันจะตามหารักแท้ 
แต่ประชาชนชาวหาคงไม่มากไปกว่าประชากรชาวแอบ 
แอบรักใครซักคน แอบเหงา หรือแอบซ่อนความอ่อนแอไว้ในใจ 
ไปจนถึงแอบหวังลึกๆว่าเขาจะมองมา


ผมคิดว่ามีประชาชนชนชาวแอบบางคนต่างแอบไม่เนียนเอาซะเลย 

หลายครั้งผมแอบไปเห็นสัญญานเล็กๆ 
ที่พวกเขามักส่งออกมาผ่านทางสื่อต่างๆมากมาย 
โดยส่วนใหญ่จะเป็นโซเชียลมีเดีย 
ที่ยอดฮิตน่าจะเป็นประโยคสั้นๆ อย่าง 

เหงาจัง...” “รอใครบางคน...” 

อาจมีที่ส่งสัญญานในรูปแบบของเพลง คำคม 
ตามแต่สถานกาลและเวลาจะเอื้ออำนวย 
เป็นไปได้ว่าพวกเขาคงเบื่อการเล่นซ่อนแอบ 
และกำลังรอคอยใครซักคนมาโป้งแปะและจูงมือเดินไปด้วยกัน


แต่ถึงกระนั้นจะมีนักเล่นซ่อนแอบมืออาชีพบางคนที่ยังคงรักษากฎกติกา 

ไม่แน่ใจว่าเพราะเขายังไม่เจอผู้หา หรือว่ายังไม่พร้อมเพชิญหน้ากับใครคนนั้น


เอาเข้าจริงแล้วในตอนนี้ตัวเองเป็นชาวแอบหรือชาวหา 

คิดว่ายังไม่น่าจะแบ่งได้ชัดเจนขนาดนั้น แต่ถ้าให้เลือก 
ผมว่าการเป็นผู้แอบคงสนุกกว่าการเป็นผู้ตามหา 
จนกว่าเขาจะรู้ตัว เราคงเดินเกมนำหน้าไปไกล 
อย่างที่บอกไปในตอนต้น ในเกมการซ่อนหา 
ที่ที่น่าจะอันตรายที่สุดอาจเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด 
การแอบรักใครซักคน การมีตัวตนอยู่ใกล้ๆ 
อาจจะเป็นการเดินเกมที่แนบเนียนกว่า


แต่ว่าไม่เคยมีเกมไหนไม่มีจุดจบ 

ไม่ว่าสุดท้ายเราจะกลายเป็นผู้ซ่อนหรือผู้หา 
ผลที่ตามมาคือความจริงที่เราต้องยอมรับ


ขอให้สนุกกับกับการเล่นซ่อนหาที่ไม่มีกติกาตายตัว

วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2557

ชีวิตติดเบียร

วันที่มีลมเย็นๆพัดแทบตลอดเวลา
ค้นพบว่าช่วงสามทุ่มกว่ากับเบียรขวดที่สอง
ช่วยตอบสนองความต้องการภายในร่างกายได้ดีในระดับหนึ่ง
เกือบเดือนแล้วมั้งที่ไม่มีแอลกอฮอลไหลลงสู่ท้อง
แม้พยยามลดให้น้อยลง แต่ยังคงรู้สึกว่าขาดมันไปไม่ได้อยู่ดี


เป็นโชคดีอย่างหนึ่งที่ร้านเหล้าเล็กๆในตลาดนัดกลางคืนแห่งหนึ่ง
ยังพอมีที่ว่างข้างๆมุมร้าน แม้ในวันที่มีคนเข้าออกตลอดเวลา
ก็ยังไม่เห็นว่าที่ว่างตรงนี้จะมีคนให้ความสนใจเท่าไร
เกือบจะไม่มีใครรู้ด้วยมั้งว่ายังมีที่ตรงนี้อยู่
โต๊ะเล็กๆนั่งได้ไม่เกินสองคน เท่านั้นเพียงพอแล้ว
นานพอควรกว่าบริกรจะรับรู้ถึงการดำรงอยู่ของข้าพเจ้า


ตามหน้าที่ ไม่นานนักก็มีบริกรเข้ามาถาม
ข้าพเจ้าสั่งเบียรยี่ห้อประจำไปโดยไม่สนใจเมนูด้วยซ้ำ
ไม่นานนักแก้วบรรจุเบียรสองใบก็มาวางอยู่ตรงหน้า
ใจลึกๆยังคงฉงนว่าทำไมไม่มาเป็นขวด
แต่คำตอบก็ได้รับการแถลงไขให้กระจ่างในตอนที่บริกรเรียกชำระเงิน
เกือบลืมไปว่าพรุ่งนี้มีการเลือกตั้ง กิจกรรมอย่างหนึ่งของคนไทยผู้มีประชาธิปไตยสลักไว้ในดวงใจ
และในวันก่อนการเลือกตั้ง ห้ามมีการจำหน่ายเหล้าเบียร
แต่ไม่ห้ามให้จำหน่ายแก้วที่บรรจุเบียร...


ข้าพเจ้าไม่ได้สนใจในวิธีการมากนักหรอก จะมาเป็นขวดหรือเป็นแก้ว  
สุดท้ายแล้วเราก็ต้องการแค่น้ำใสๆภายในแค่นั้นเอง


โต็ะหลังเป็นชาวต่างชาติที่กำลังคุยกับสหายอย่างออกรส
คาดว่าน่าจะโดนไปหลายแก้วพอสมควร
น่าแปลกตรงที่สุราสามารถทำให้เราพูดเก่งขึ้นได้อย่างเหลือเชื่อ
แม้น้ำเสียงจะดูมีอรรถรสเท่าไร
ข้าพเจ้าก็ยังไม่สามารถเข้าใจอะไรในถ้อยคำสนทนาได้อยู่ดี
ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าได้เหลือบมองไปเห็นสีหน้าท่าทางของชาวต่างชาติผู้นนั้น
และรู้สึกขำขันในภาษากายประกอบถ้อยคำที่เขากระทำออกมาตลอดช่วงเวลาของการสนทนา


เสียงดนตรีที่ถูกกลบด้วยเสียงของบรรดาผู้มาใช้บริการ
พนักงานเดินวนไปวนมาโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพัก
ไม่นานนักข้าพเจ้าตัดสินใจย้ายฝั่งนั่งหันหน้าเข้ากำแพง
ทิ้งกระเป๋าหนังแห้งๆสีน้ำตาลเทาเอาไว้บนเก้าอี้ตัวเดิม


ท่ามกลางแสงสีและเสียงดนตรีไม่มีนางฟ้าอย่างที่ใครว่าไว้
ข้าพเจ้าหยิบนวนิยายเล่มเล็กที่พกติดตัวไว้ขึ้นมาอ่าน
ผ่านไปสามสี่หน้ากลับรู้สึกว่าไม่สามารถซึมซับถึงถ้อยคำอันสละสรวยที่ผู้แต่งได้บบรยายเอาไว้
จึงนำมันกลับคืนสู่ในกระเป๋าเข้าไว้ที่เดิม


เอาเข้าจริงแล้วข้าพเจ้าคงไม่มีความสามารถอย่าง
"ผม" ในนวนิยายไตรภาคของมูราคามิ
ที่สามารถดื่มสุราและอ่านนวนิยายไปพร้อมๆกัน
หรืออาจจะเป็นเพราะบรรยากาศในร้านเหล้ามันต่างกัน
แต่ไม่ว่ายังไง ภาพของตัวเอกที่โดดเดียวแต่ลึกลับในบาร์เหล้าของเจ
ยังคงเป็นภาพที่เทห์เสมอในความทรงจำของข้าพเจ้า


เข้าใจว่าลึกๆแล้วนี่อาจจะเป็นพฤติกรรมที่คนส่วนใหญ่ตีความไปว่า "เหงา"
แต่เอาเข้าจริงข้าพเจ้ากลับคิดว่าความเหงา
เป็นเพียงคำกริยาที่มนุษยสากำหนดขึ้นมากันเอง
ในบรรดาสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิดบนโลกใบนี้
ข้าพเจ้าไม่เคยได้ยินว่ามีสัตว์ชนิดใหน
บ่นว่าตัวมันเหงาเลยซักครั้ง
ดังนั้นความเหงาจึงน่าจะเป็นเพียงคำจำกัดความเฉพาะมนุษย์บางประเภทเท่านั้น

ไม่นานหลังจากเบียรอึกสุดท้ายไหลลงสู่ลำคอ
สิ่งต่อไปที่ข้าพเจ้ากระทำคือการสำรวจตัวเอง
ค้นพบว่านอกจากเงินในกระเป๋าที่ลดน้อยกว่าตอนเดินเข้ามา
ทุกอย่างยังอยู่ครบถ้วนเหมือนเดิม
หากไม่นับสติที่ลดน้อยลงไปไม่มากนัก 
แต่นั้นยังเพียงพอหากข้าพเจ้าจะสานต่ออีกหลายๆขวด


หลังจากเดินออกจากร้านไปอย่างไม่มีใครสนใจ
จุดหมายต่อไปคือหาที่บรรเทาความรู้สึกปวดเกร็งตรงช่วงท้อง
ห้องน้ำอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก
พนักงานสาวรับเงินสามบาทเป็นค่าผ่านประตูไปสู่แดนสุขา(วดี)
ข้าพเจ้ารู้สึกผงะเมื่อพบว่าภายในห้องน้ำชาย
มีหญิงสาวมากมายกำลังรอต่อคิวเข้าอยู่
ไม่นานจึงรู้สาเหตุว่ามาจากจำนวนห้องน้ำหญิงไม่เพียงพอ
น่าขันที่หญิงสาวสมัยใหม่ไม่ค่อยหยี่ระกับการแบ่งแยกเท่าไร
จะห้องน้ำชายหรือหญิง แท้จริงแล้วจุดหมายคือแค่ต้องการปลดปล่อยมวลสารแห่งความทรมาณในช่องท้องเพียงเท่านั้น
ไม่ต่างกันไม่ว่าชายหรือหญิง


สิ่งสั้นๆที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ชั่วโมงของค่ำคืน
ไม่อาจบรรยายรายละเอียดได้ทั้งหมด
ข้าพเจ้าเพียงอยากทดความรู้สึกบางอย่างออกมาเป็นตัวอักษร
เผื่อตอนต่อไปของชีวิตได้ย้อนผ่านกลับมาเห็น
นี่อาจจะเป็นบันทึกความทรงจำที่ดีก็ได้


ป้ายรถเมล์ยังคงไม่มีทีท่าของรถประจำทาง
ข้าพเจ้านึกถึงช่วงเวลาที่ร่างกระทบกับเตียงนุ่มๆ
แอร์เย็นๆที่พักมากระทบผิวในคืนนี้
คงให้ความรู้สึกพิเศษกว่าคืนที่ผ่านมา


และหวังว่่าช่วงเวลาตื่นคงไม่ปวดระบมอวัยวะที่เรียกว่าศรีษะมากนัก....

วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2557

ชีวิจ 20+

เป็นช่วงชีวิตในวัยยี่สิบกว่าๆที่คิดว่าใช้ชีวิตได้คุ้มค่าดี
ถึงตอนนี้จะมีงานประจำที่คิดว่าทำสบายแล้วก็ตามที
แต่ยังไม่อยากหยุดอยู่กับความสบายที่ได้มาแบบง่ายๆ
คิดว่าชีวิตยังเรียนรู้อะไรไม่มากพอเมื่อเทียบกับคนวัยเดียวกัน


คงเป็นโชคดีอย่างหนึ่งของชิวิตที่ลมได้พัดเปลี่ยนทิศให้พบกับคนเจ๋งๆจำนวนมาก
เวลาคนที่มีความมุ่งมั่นมาอยู่รวมกัน
เหมือนเห็นกลุ่มก้อนความฝันกำลังล้อมวงสนทนา


ยิ่งเจอคนเก่งๆมากเท่าไร อัตตาในตัวยิ่งละลายลดลง
เคยคิดอยากจะมีไทมเมทชีนเพื่อไปแก้ไขอะไรบางอย่าง
แต่ลองมาคิดดูอีกที ก็เหมือนเส้นทางที่เดินผ่านมาค่อนข้างลงตัวแล้ว
หากวันนั้นช่วงชั้น ม4 ไม่เลือกที่จะเข้าโรงเรียนทหาร
เราคงไม่มีวันรู้แน่ๆว่าจริงๆแล้วตัวเองต้องการอะไร


ขอบคุณช่วงเวลาสามปีในโรงเรียนทหาร
ที่ทำให้เรารู้ว่าห้องสมุดเป็นโลกอันเลอค่าอีกหนึ่งใบ
โลกที่ไม่มีเสียงนกหวีดเรียกรวมแถวให้รำคาญใจ
โลกใบเล็กที่มีอณาเขตเพียงหนึ่งเก้าอี้และโต๊ะที่ใช้ร่วมกัน
ขอบคุณหนังสือปรัชญาเล่มนึงที่เราบังเอิญหยิบมาอ่าน
โดยหวังแค่จะอ่านเล่นๆ แต่ดันไปเจอบทนึงที่น่าสนใจ
เป็นประโยคที่ใครก็ไม่รู้ สอนให้เรามองสิ่งของแบบแยกส่วน
โต๊ะจริงๆแล้วก็แค่ไม้หลายๆชิ้นประกอบกัน
คน จริงๆแล้วก็แค่ผลรวมของอวัยวะหลายๆชิ้น
มีเพียงแขนหรือขาก็ไม่นับว่าเป็นคน
สุดท้ายตัวเราเองก็ไม่ได้เป็นของเราเองซะทีเดียว
เราจำได้คร่าวๆเท่านี้
แต่เป็นสามสี่ประโยคเริ่มทำให้เราสนใจในโลกน้ำหมึก



แต่ละเดือนในห้องสมุดโรงเรียนจ่าอากาศ
เรามักรอคอยการมาถึงของเนชนอล จีโอการฟฟิกเล่มใหม่
เป็นหนังสือสารคดีฉบับเดียวมั้งที่ห้องสมุดรับมา
พบว่าภาพสวยๆกับเนื้อหาทำให้ช่วงเวลาพักเที่ยงผ่านไปเร็วมาก
(อ่อลืมไป มีต่วยตูนพิเศษ อีกเล่มที่รออ่าน)
นับตั้งแต่นั้นมาก็เริ่มสนุกกับการที่ได้รู้เรื่องราวใหม่ๆ


ไม่นานมานี้เพิ่งเจอไดอารี่สามสี่เล่มที่ตัวเองเขียนไว้
ในช่วงสามปีที่เป็นนักเรียนทหาร
มันอาจจะไม่มีสาระอะไรไปมากกว่าการระบายเรื่องราวลงไปในนั้น
แต่ในวันที่เราหยิบมันมาดูอีกครั้ง เราพบว่าเรื่องพวกนั้นกลายเป็นสิ่งยืนยันความทรงจำที่ดีเลยทีเดียว


นี่อาจจะเป็นเพียงหนึ่งในเมโลดี้ของชีวิต
ข้าราชการอาจเป็นเพียงFirst job หรือ Final job
ก็ไม่ทราบได้ ตราบใดที่อนาคตคือความไม่แน่นอน
ตอนต่อไปคงตามมาอีกไม่นาน